อายุเยอะ อยากมีลูก เป็นปัญหาของคู่สมรสหลายคู่ที่มักพบเจอเมื่อต้องการมีเจ้าตัวเล็กประจำบ้านเพื่อนำมาเติมเต็มความสมบูรณ์ของครอบครัว ซึ่งเมื่อมีอายุมากขึ้น ความถี่ของกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาก็มักจะลดน้อยลงไปด้วยตามปกติของวัย ทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ก็น้อยลง ประกอบกับหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดสุขภาพของระบบเจริญพันธุ์ไม่สมบูรณ์ เช่น น้ำเชื้อน้อย ไข่ไม่ตกก็ยิ่งทำให้น้อยลงไปอีก วันนี้เราจะมีพูดถึงปัจจัยเสี่ยงและวิธีแก้ไขสำหรับผู้ที่มีภาวะมีบุตรยากกัน
มีอายุเยอะ อยากมีลูก แต่ไม่มีสักที ปัญหามาจากอะไร?
ปัจจัยที่ทำให้มีบุตรยากนั้นขึ้นอยู่กับหลายสาเหตุ ซึ่งมักเกิดในร้อยละ 10-15 ของคู่สมรส ที่แต่งงานกันอย่างน้อย 1 ปี มีกิจกรรมทางเพศสม่ำเสมอโดยไม่ได้คุมกำเนิด แต่ก็ยังไม่ท้องสักทีนั้นว่าเป็นผู้อยู่ใน “ภาวะมีบุตรยาก” โดยมีสาเหตุการมีบุตรยากนั้นมาจากหลายปัจจัย ดังนี้
- ปัจจัยทางด้านอายุ โดยปกติแล้วอายุเฉลี่ยของผู้หญิงที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์คือ อายุ 25 ปี และจะค่อยๆ ลดลงเมื่ออายุเริ่มเข้าปีที่ 30 และหากมีอายุที่เกิน 35 แล้วจะยิ่งเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ที่ยากขึ้นและยังเพิ่มความเสี่ยงต่อบุตรในครรภ์อีกด้วย
- ความถี่ของการมีกิจกรรมทางเพศที่ลดน้อยลง ทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ลดลง
- การมีกิจกรรมทางเพศในจังหวะของวันที่ไข่ไม่ตก เพราะไข่ที่ตกแล้วจะอายุอยู่ได้เพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ( วิธี นับวันไข่ตก วิธีง่ายๆ แก้ปัญหามีลูกยากด้วยวิธีธรรมชาติ << อ่านต่อ )
- ฝ่ายหญิงมีปัญหาด้านสุขภาพ มีโรคหรือความผิดปกติเกี่ยวกับระบบเจริญพันธุ์ เช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ เนื้องอกมดลูก
- ฝ่ายชายมีปัญหาด้านสุขภาพ มีโรคหรือความผิดปกติเกี่ยวกับระบบเจริญพันธุ์ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคหัวใจ เคยเป็นคางทูมหรืออัณฑะอักเสบทำให้ส่งผลให้มีอสุจิน้อยลง
- ชอบสูบบุหรี่ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ ก็ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพความแข็งแรงต่ออสุจิ ( สูบบุหรี่ ทำให้มีลูกยาก เป็นหมัน ภัยร้ายใกล้ตัวที่มาพร้อมกับควันบุหรี่ << อ่านต่อ )
- น้ำหนักตัวที่มากเกินไป เนื่องจากตามผลวิจัยพบว่า ผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติจะมีโอกาสตั้งครรภ์ที่ยากกว่าผู้หญิงที่มีน้ำหนักตัวปกติถึง 2 เท่า และในฝ่ายชายหากอยู่ในภาวะน้ำหนักเกินจะมีการผลิตอสุจิที่น้อยกว่าคนทั่วไปถึง 22 % ( โรคอ้วน กับภาวะมีบุตรยาก น้ำหนักเกิน ทำไมถึงเสี่ยงลูกยาก << อ่านต่อ)
เพิ่มโอกาสการมีลูกได้ด้วยวิธีง่ายๆ
1.เริ่มให้ถูกวัน
หลายคนมักเข้าใจว่า การมีกิจกรรมทางเพศกันบ่อยๆ จะทำให้มีบุตรง่ายขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เสมอไปเพราะโอกาสและความพร้อมที่เหมาะสมก็คือ วันที่ไข่ตกเท่านั้นที่โดยปกติแล้วไข่จะตกในช่วงประมาณ 14 วันก่อนที่จะมีรอบเดือน ซึ่งหากเป็นผู้ที่มีรอบเดือนมาอย่างสม่ำเสมอในทุกๆ เดือนก็จะสามารถนับรอบวันของไข่ตกได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น
หากคุณมีรอบเดือนที่จะมาในทุก ๆ 28 วัน ไข่ก็จะตกอยู่ช่วงเวลาราวๆ วันที่ 14 ของรอบเดือน ในเวลาช่วงนี้คู่สมรสสามารถมีการมีกิจกรรมทางเพศในช่วงก่อนวันตกไข่ได้ประมาณ 2 วัน เริ่มคือ ตั้งแต่วันที่ 12 ไปจนถึงวันที่ 17 ของรอบเดือน แต่ในกรณีที่คุณมีประจำเดือนที่มาไม่สม่ำเสมอ วิธีนี้อาจจะไม่เหมาะสมเพราะอาจจะทำให้การนับคลาดเคลื่อน ควรใช้วิธีอื่นในการช่วยนับได้ เช่น การตรวจวัดอุณหภูมิ, การตรวจมูกปากมดลูก, การใช้ชุดตรวจการไข่, การตรวจน้ำลาย เป็นต้น
- วิธี นับวันไข่ตก วิธีง่ายๆ แก้ปัญหามีลูกยากด้วยวิธีธรรมชาติ << อ่านต่อ
- สังเกตมูกไข่ตก มูกช่องคลอด ตกขาว สัญญาณพร้อมท้องดูยังไง? << อ่านต่อ
2.ความถี่ของการร่วมเพศ
การมีกิจกรรมทางเพศที่ถี่หรือบ่อยเกินไปมีผลต่อคุณภาพของตัวอสุจิที่มีปริมาณน้อยลง ส่งผลให้มีลูกยากขึ้น ดังนั้นระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมีกิจกรรมทางเพศก็คือ เว้นวันหรือ 2 วันครั้ง จะช่วยเพิ่มโอกาสการมีบุตรมากกว่าได้มากกว่า
3.เลือกจังหวะและท่าให้ดี
ในการมีกิจกรรมทางเพศนั้น มักมีท่วงท่าให้เลือกมากมายถึงอยู่กับรสนิยม แต่หากจะพูดถึงท่าที่เหมาะสมที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์นั้น ก็คือท่ามิชชันนารี (Missionary) ซึ่งเป็นท่าเบสิกแต่มีประสิทธิผลช่วยให้สามารถมีลูกง่าย เพราะในท่านี้ฝ่ายหญิงจะสามารถนอนหงายได้แบบสบายๆ ไม่เกร็งตัว โดยมีทริคเสริมคือ ควรให้หมอนหนุนสะโพกให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพิ่มโอกาสให้อสุจิวิ่งเข้าสู่มดลูกได้ง่ายขึ้น และช่วยให้ฝ่ายชายก็สามารถใส่เข้าไปได้ลึกขึ้นและหลั่งอสุจิไปสู่มดลูกได้โดยตรงอีกด้วย
4.การใช้เจลหล่อลื่น
เจลหล่อลื่นนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการมีกิจกรรมทางเพศ เพราะช่วยลดอาการบาดเจ็บจากการเสียดสีได้ดี และเป็นที่นิยมในคู่สมรสที่มีอายุมากขึ้น เนื่องจากการผลิตน้ำหล่อลื่นยังลดลงไปตามวัย แต่หากต้องการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นนั้น ควรจะหลีกเลี่ยงหรือใช้ในปริมาณที่น้อยที่สุด เพราะความข้นหนืดของเจลหล่อลื่นนั้นส่งผลโดยตรงต่อการเคลื่อนไหวและทิศทางการว่ายของอสุจิได้ยากขึ้น
5.การคุมน้ำหนัก
เนื่องจากปัจจัยทางด้านน้ำหนักกายก็มี ดังนั้นควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ และควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้นและยังได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วย
6.ลดความเครียด
ความเครียดนั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างมาก โดยเฉพาะฝ่ายหญิง เพราะความเครียดนั้นจะเข้าไปรบกวนระบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะระบบการเจริญพันธุ์ ซึ่งส่งผลให้ไข่ไม่ตกตามเวลา ไข่ไม่สมบูรณ์ และยังทำให้ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกับอสุจิแล้วมีการฝังตัวได้ยากขึ้น และยังส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชายที่ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ การผลิตอสุจิลดลงอีกด้วย
7.งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น มีผลโดยตรงต่อปริมาณและความแข็งแรงของอสุจิ เช่น ผลิตได้น้อย ไม่แข็งแรง อสุจิอ่อนแอ เคลื่อนไหวช้า ตายง่าย มีรูปร่างผิดปกติ และยังมีผลโดยตรงต่อจำนวนของการตกไข่ของฝ่ายหญิงได้ด้วย นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำก็ควรลดปริมาณลงด้วย เนื่องจากคาเฟอีนในกาแฟนั้นมีผลต่อการตั้งครรภ์ยากและเสี่ยงต่อการแท้งบุตรเพิ่มขึ้น ดังนั้นไม่ควรก็คือควรได้รับปริมาณต่ำกว่าวันละ 200-250 มิลลิกรัม หรือประมาณ 1 แก้วกาแฟ
8.รักษาอุณหภูมิ
เนื่องจากระบบเจริญพันธุ์ของฝ่ายชายนั้น อสุจิจะถูกผลิตจากลูกอัณฑะซึ่งจะสามารถผลิตได้ดียิ่งขึ้นในอุณหภูมิที่เย็น ดังนั้นหากฝ่ายชายมีพฤติกรรมที่มักจะอยู่ในที่อบอ้าวหรืออากาศร้อนๆ เช่น การอาบน้ำอุ่น แช่น้ำร้อน นั่งมอเตอร์ไซค์ตากแดด หรือการสวมกางเกงในที่รัดแน่นจนเกินไป ก็ส่งผลต่อการผลิตอสุจิได้
9.รับประทานอาหาร
สำหรับผู้ที่วางแผนการตั้งครรภ์ ควรจะรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะสารอาหารจำเป็นอย่างธาตุเหล็ก, ไอโอดีน และวิตามินดี จะช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ควรจะทานโฟลิคเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นกับบุตรเช่น พิการ เป็นต้น
- 15 อาหารบำรุงไข่ บำรุงมดลูก เร่งไข่ตก << อ่านต่อ
- สเปิร์มไม่แข็งแรง อสุจิไม่มีสเปิร์ม น้ำเชื้ออ่อน มีลูกได้หรือไม่? << อ่านต่อ
10. การฉีดเชื้อผสมเทียม
การฉีดเชื้อ หรือ การทำ IUI (Intra Uterine Insemination) คือ เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยรักษาภาวะมีบุตรยาก “ที่ไม่ได้มาจากปัจจัยด้านอายุ” ซึ่งการฉีดน้ำเชื้อถือว่าเป็นการปฏิสนธิที่ใกล้เคียงกับวิธีตามธรรมชาติมากที่สุด เพราะเป็นการฉีดน้ำเชื้อเข้าในโพรงมดลูกโดยตรงจากเครื่องมือทางการแพทย์ขนาดเล็กที่สอดผ่านปากมดลูก ซึ่งวิธีนี้ถือได้ว่าเป็นวิธีที่เพิ่มโอกาสอัตราการความสำเร็จของการตั้งครรภ์สูงมากกว่าวิธีธรรมชาติมากถึง 5 เท่า
11. การทำอิ๊กซี่
ในกรณีที่ลองด้วยวิธีธรรมชาติและการฉีดเชื้อไม่สำเร็จแล้ว แพทย์อาจจะแนะนำให้คู่สมรสทำ “อิ๊กซี่ (ICSI) “หรือ ที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นชินกับคำว่า ” เด็กหลอดแก้ว” นั้นเป็นกระบวนการทางแพทย์ที่ช่วยในเรื่องอายุเยอะ อยากมีลูกให้ระบบการเจริญพันธุ์ในเชิงของการปฏิสนธินอกร่างกาย ซึ่งเป็นเทคนิคการแพทย์ชั้นสูงที่ถูกพัฒนามาจากการทำเด็กหลอดแก้วแบบ IVF แต่ให้ผลลัพธ์เปอร์เซ็นต์ความสำเร็จที่สูงกว่า เพราะการทำ IVF นั้นจะเป็นการคัดเลือกไข่ที่สมบูรณ์และเชื้อที่แข็งแรงมาผสมกันจนเป็นตัวอ่อนและจึงนำกลับเข้าไปที่โพรงมดลูก แต่การทำ ICSI จะเป็นการปฏิสนธิแบบตั้งใจก็คือ การนำเข็มใส่เชื้อที่แข็งแรงที่สุดฉีดเข้าไปในไข่เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนแล้วจึงนำกลับไปในโพรงมดลูก เหมาะสำหรับคู่สมรสที่มีอายุมาก เพราะในการตั้งครรภ์ในกลุ่มคนที่ตั้งครรภ์ตอนอายุมาก จำเป็นจะคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมตัวอ่อนมากกว่าครรภ์ทั่วไปเพื่อลดความเสี่ยงกับโรคแทรกซ้อนต่างๆ และยังลดความเสี่ยงต่อบุตรในท้องลูกที่เกิดมาอาจเป็นดาวน์ซินโดรมได้อีกด้วย ซึ่งโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์โดยวิธีของการทำอิ๊กซี่นั้นมีสูงถึง 80-85 % อีกด้วย
อ่านบทความ : FAQs รวมคำถาม ICSI ที่หลายคนอยากรู้ คำถามเกี่ยวภาวะมีบุตรยาก
………………………………………………
เพื่อไม่ให้พลาดความรู้ดี ๆ กด Like Page และอย่าลืม Subscribe
Worldwide IVF Channel ไว้เลยครับ
👉🏻 พอดแคสต์ของคนอยากมีลูก : https://bit.ly/3kdJI3K
………………………………………………
แพทย์ผู้เขียน
แพทย์ผู้เขียน
นพ.ธิติกรณ์ วาณิชย์กุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชศาสตร์
นพ.ธิติกรณ์ วาณิชย์กุล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชศาสตร์