การฝากไข่ (Egg Freezing)
- ตรวจความพร้อมร่างกาย
- เริ่มกระตุ้นการสร้างไข่
- เก็บไข่ด้วยการผ่าตัดส่องกล้อง
- เข้าสู่กระบวนการทางห้องปฎิบัติการและแช่แข็งไข่ ฟรี 1 ปี
ฝากไข่ หรือ Egg Freezing
การแช่แข็งไข่ของผู้หญิง หรือ Egg Freezing เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ใช้สำหรับการคงสภาพของไข่ให้พร้อมต่อการปฏิสนธิในช่วงอายุที่เหมาสมที่สุด ซึ่งอายุไข่ของไข่ที่เหมาะสมสำหรับการปฏิสนธิให้เป็นตัวอ่อนนั้นจะอยู่ที่ 22-28 ปี ซึ่งในปัจจุบันอัตราการแต่งงานของคนยุคนี้มีแนวโน้มว่าจะแต่งงานช้าลง และมักจะมีการวางแผนการมีบุตรโดยใช้เวลานานมากขึ้น ทำให้กว่าจะพร้อมก็ทำให้อายุของไข่มากแล้วเกิดภาวะมีบุตรยากได้ ทำให้การฝากไข่ในอายุที่เหมาะสมจึงเป็นตัวเลือกที่ดี
นอกจากนี้เทคโนโลยีนี้ยังไม่เฉพาะผู้ที่แต่งงานแล้วเท่านั้น เพราะในกลุ่มสาวโสดในยุคใหม่ที่ต้องการวางแผนเรื่องครอบครัวและการมีบุตรในอนาคต การฝากไข่คือเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะในขั้นตอนการกระตุ้นไข่นั้นจะมีการคัดเลือกไข่เฉพาะฟองที่มีคุณภาพดีที่สุดเท่านั้น ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าหากแต่งงานช้าหรือเก็บเงินสร้างตัวเพื่อเตรียมความพร้อมมีบุตรช้าแล้วจะไม่สามารถมีบุตรได้ เพราะไข่จะถูกเก้บรักษาไว้คงสภาพเดิมได้ยาวนานถึง 10 ปี และเมื่อถึงเวลาใช้แล้วก็สามารถนำออกมาละลายพร้อมใช้ได้ทันที
การฝากไข่เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่โสด หรือยังไม่ได้แต่งงาน แต่ว่ามีการวางแผนว่าต้องการมีบุตรในอนาคต
- สามีภรรยาที่แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่พร้อมมีบุตรตอนนี้
- เหมาะสำหรับผู้ที่ทำการรักษาภาวะมีลูกยากด้วยวิธีปฏิสนธิภายนอกร่างกาย เช่น การทำ IVF หรือ อิ๊กซี่ (ICSI)
- ผู้ที่ทำการกระตุ้นไข่เพื่อนำไปปฏิสนธิด้วยวิธี IVF หรือ อิ๊กซี่ (ICSI) แล้วได้ไข่จำนวนหลายใบ ไข่ที่เหลือสามารถฝากไข่แช่แข็งไว้ได้ เพื่อความสะดวกในการนำไปปฏิสนธิรอบใหม่ หรือ ต้องการมีบุตรเพิ่ม
- ในบางรายของผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องรับการรักษาด้วยการฉายแสงเคมี เช่น โรคมะเร็ง และผู้ที่ต้องทำการผ่าตัดรังไข่ เพราะในกระบวนการรักษานั้นจะทำให้รังไข่เสื่อมเร็ว ทำให้ไข่ไม่ได้คุณภาพมากพอที่จะมีบุตรได้ในอนาคต
ขั้นตอนการฝากไข่ Egg Freezing
- ในขั้นตอนแรกของการฝากไข่นั้น แพทย์จะทำการซักกระวัติและข้อมูลสุขภาพเพื่อดูความพร้อมของร่างกายว่า เหมาะสมหรือไม่ จากนั้นจะเริ่มทำการนัดหมายเพื่อให้มากระตุ้นไข่
- การกระตุ้นไข่นั้นจำเป็นจะต้องฉีดยาฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นให้มดลูกผลิตไข่ออกมาครั้งละหลายๆ ฟอง ซึ่งในขั้นตอนนี้จำเป็นจะต้องกระตุ้นทุกวันเป็นเวลา 10-14 วัน จำนวนเข็มที่ฉีดจะขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของแพทย์ โดยจะยึดหลักปริมาณฮอร์โมน ผลตรวจและอายุของฝ่ายหญิงเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด)
- ระหว่างนั้นแพทยจะทำการตรวจดูไข่เสมอว่ามีขนาดที่เหมาะสมแล้วและมีปริมาณที่มากพอแล้วหรือไม่ (ซึ่งขนาดที่เหมะสมนั้นก็คือ ไม่ต่ำกว่า 18 เซ็นติเมตร) และหากครบกำหนดการฉีดฮอร์โมนกระตุ้นแล้ว แพทย์ก็จะทำการฉีดยากระตุ้นเพื่อให้ไข่สุกและตกพร้อมกันภายในเวลา 36 ชั่วโมง
- ในกระบวนการขั้นตอนเก็บไข่จะไม่ได้เก็บโดยวิธีผ่าตัดอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่ทีมแพทย์จะทำการเก็บผ่านทางช่องคลอด (ผ่าตัดส่องกล้อง) โดยการวางยาระงับความรู้สึกก่อน จากนั้นก็นำเครื่องมือก็คือ เข็มขนาดเล็กที่ติดหัวอัลตราซาวด์ค่อยๆ สอดเข้าไปส่องหาไข่ ก่อนจะทำเจาะดูดการไข่ออกมาตรวจสอบคุณภาพทางห้องปฏิบัติการ โดยใช้น้ำยา Cryoprotectant เข้มข้นสูงและทำให้เย็นอย่างรวดเร็วโดยไนโตรเจนเหลว เพื่อคงสภาพไข่ไว้ให้พร้อมสำหรับการเก็บ ซึ่งกระบวนการนี้สามารถเก็บไข่ได้นานกว่า 10 ปี
ข้อเสียของการฝากไข่
ถึงแม้ว่าวิธีฝากไข่จะมีประโยชน์ในด้านของคงประสิทธิภาพของไข่ที่มีคุณภายและมีอาจุที่เหมาะสมที่สุดในการปฏิสนธิเพื่อการมีบุตรในอนาคต แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกันเพราะค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง (120,000++ บาทต่อปี) และไข่ที่นำออกมาแล้วจะไม่สามารถนำกลับเข้าไปใส่ในมดลูกได้อีก ดังนั้นหากพร้อมต่อการมีบุตรแล้วจะต้องใช้การปฏิสนธิภายนอกอย่าง IVF หรือ ICSI เท่านั้น