เป็นหมัน หรือทำหมันมาสามารถมีลูกได้หรือไม่? เป็นคำถามที่หมอได้ยินบ่อยครั้งเวลาให้คำปรึกษากับผู้ที่ต้องการมีบุตรแต่ตกอยู่ในภาวะมีบุตรยากเนื่องจากอาการหมัน ต้องบอกว่าในปัจจุบันนี้ทางการแพทย์ของเราได้มีการพัฒนาจนสามารถช่วยเหลือและแก้ปัญหาผู้ที่มีบุตรยากด้วยสาเหตุต่างๆ รวมถึงภาวะหมันก็สามารถรักษาและกลับมามีลูกได้ วันนี้เราจะมาพูดถึงการรักษาภาวะมีบุตรยากจากอาการหมันกันครับ
ภาวะหมัน สามารถมีบุตรได้เองหรือไม่?
ผู้ที่อยู่ในภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุหมันนั้น สามารถรักษษได้ด้วยเทคโนโลยีทางการเจริญพันธุ์สำในปัจจุบันนั้นล้ำหน้าไปมากแล้ว แต่จะใช้วิธีและขั้นตอนไหนในการรักษานั้น จะขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่เข้ารับการรักษานั้นมีปัญหามาจากอะไร โดยจะมีการแบ่งอาการหมันได้ทั้งฝ่ายชายและหญิง ดังนี้
อาการหมันที่มาจากฝ่ายหญิง
1.ความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
เป็นอาการผิดปกติในระบบสิบพันธุ์ตั้งแต่กำำเนิดในฝ่ายหญิง เช่น มีอวัยวะเพศที่ไม่สมบูรณ์หรือมีส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ครบ เช่น ไม่มีช่องคลอดส่วนล่าง ไม่มีมดลูก ไม่มีท่อนำไข่ หรือไม่มีรังไข่ ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้ตั้งครรภ์ไม่ได้
2.มีปัญหาที่ช่องคลอด
ความผิดปกติของช่องคลอด เช่น ช่องคลอดตีบตัน อาจจะเกิดจากพังผืด หรือผนังกั้นที่ช่องคลอด หรือบางรายอาจจะเกิดก้อนเนื้องอก หรือมีรอบแผลเป็นจนทำให้เวลามีกิจกรรมทางเพศแล้วอวัยวะเพศของฝ่ายชายไม่สามารถเข้าไปได้
3.แบคทีเรีย
อาการป่วยที่เกิดจากติดเชื้อจากเชื้อพยาธิหรือเชื้อรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีส่วนในการเข้าไปทำการเปลี่ยนแปลงความสมดุลในช่องคลอด ซึ่งเป็นเหตุให้ทำให้เชื้ออสุจิตายง่ายกว่าปกติและไม่สามารถเข้าไปปฏิสนธิได้
4.ปัญหาระหว่างการร่วมกิจกรรมทางเพศ
เป็นปัญหานี้เป็นปัญหาเงียบที่เกิดขึ้นกับหลายคู่แต่มักจะไม่ถูกพูดถึงเนื่องจากความอาย โดยสาเหตุที่เกิดขึ้นนั้นมักจะเกิดจากความเจ็บปวดเมื่อร่วมกิจกรรมทางเพศจนทำให้เกิดอาการกลัวการมีเพศสัมพันธ์ด้วยอาการกลัวในจิตใจนี้เองส่งผลให้ไม่มีอารมณ์ทางเพศ และเกิดภาวะหดเกร็งของท่อมดลูก
5.ปัญหาจากมดลูก
สาเหตุนี้มักเกิดจากความผิดปกติเกี่ยวกับฮอร์โมนภายในระบบสืบพันธุ์ที่ทำให้เชื้ออสุจิเคลื่อนไหวได้ยากยิ่งขึ้น โดยสาเหตุหลักๆ ที่มักจะเกิดจากตัวมดลูกและเยื่อบุมดลูก คือ
- โรคเซลล์เยื่อบุมดลูกเกิดผิดที่ พบใน 25-65 %
- การทำงานของเยื่อบุมดลูกผิดปกติ ส่งผลให้ขาดฮอร์โมนจึงทำให้ไม่เกิดภาวะไข่ตก
- เนื้องอกของมดลูก ความรุนแรงของอาการนี้จะขึ้นอยู่กับตำแหน่งของเนื้องอกนั้นๆ
6.การอักเสบของท่อนำไข่
การติดเชื้อหนองใน โรควัณโรค ภาวะแทรกซ้อนหลังคลอดหรือขูดมดลูกและการอักเสบของอวัยวะใกล้เคียงในช่องท้อง เช่น ไส้ติ่งอักเสบ อาการเหล่านี้ภจะทำให้เกิดพังผืดที่บริเวณท่อนำไข่ ส่งผลให้เกิดการอุดตันที่ส่วนปลายของท่อมดลูก หรืออาจทำให้ท่อมดลูกคดงอผิดปกติจนทำให้เชื้ออสุจิไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ได้ หรือในบางกรณีก็เกิดจากภาวะก้อนเนื้องอกเจริญผิดที่เข้าไปกดทับหรือดันท่อนำไข่ให้เกิดการตีบตันขัดขวางการปฏิสนธิระหว่างไข่และเชื้ออสุจิ
7.ต่อมไร้ท่อและรังไข่
โดยเปกติแล้วฮอร์โมนที่จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์นั้นจะถูกหลั่งออกมาจากต่อมไร้ท่อที่จะต้องรักษาความสมดุลของฮอร์โมนไว้ในคงที่ เพราะหากมีฮอร์โมนใดฮอร์โมนหนึ่งมีมากหรือน้อยเกินไปก็จะส่งผลให้ระบบภายในขาดความสมดุล ซึ่งอาจจะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์แปรปรวน จนเกิดภาวะต่างๆ เช่น
- ไม่เกิดประจำเดือน
- ไข่ไม่ตก
- เลือดออกผิดปกติจากโพรงมดลูก
- ภาวะขาดหรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไม่เพียงพอ
- ต่อมธัยรอยด์ (Thyroid) ทำงานผิดปกติ
- ต่อมหมวกไตทำงานผิดปกติ
- ภาวะก้อนเนื้องอกที่ต่อมพิทูอิทารี (Pituitary gland) บริเวณกลีบหน้า
- เกิดภาวะถุงน้ำของรังไข่หลายอัน
9. ระบบภูมิคุ้มกัน
จากผลการศึกษางานวิจัยฉบับหนึ่งกล่าวว่า คู่สามีและภรรยาที่แต่งงานใหม่ที่ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้เองตามธรรมชาติเป้นจำนวน 1 ส่วน 4 ของ 10℅ ที่อยู่ในภาวะเป็นหมันเพราะอาจเกิดจากฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงมีภาวะเข้ากันไม่ได้เนื่องจากภูมิคุ้มกัน เช่น ภาวะเลือดเข้ากันไม่ได้ระหว่างสามีและภรรยา ภูมิคุ้มกันในฝ่ายชาย และการมีภูมิคุ้มกันต่อตัวอสุจิในฝ่ายหญิงที่อาจจะมีในมดลูก คอมดลูก ช่องคลอดและในกระแสเลือด อาการเหล่านี้จะต้องได้รับการรักษาโดยแพทย์เท่านั้น
อาการหมันที่มาจาก ฝ่ายชาย
1.ระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ
อาการของระบบสืบพันธุ์ผิดปกติเกิดจากการผลิตความเชื้อที่ไม่มีตัวอสุจิ หรือมีจำนวนตัวอสุจิน้อยเกินไป หรือการผลิตอสุจิที่ไม่ได้คุณภาพ เช่น มีรูปร่างผิดปกติ อสุจิไม่มีการเคลื่อนไหวหรือมีเคลื่อนไหวผิดปกติ อาการเหล่านี้นั้นมักสาเหตุมาจาก
- อาการอักเสบหรือติดเชื้อจากการป่วยเช่น เป็นคางทูมหรือการติดเชื้อหนองใน
- เคยได้รับอุบัติเหตุกระทบกระเทือนอย่างแรงบริเวณอัณฑะ ภาวะอัณฑะเส้นเลือดขอดมากกว่าปกติ มีน้ำในบริเวณถุงอัณฑะ และพฤติกรรมที่ชอบสวมกางเกงหรือกางเกงในรัดแน่นจนเกินไป
- ต่อมไร้ท่อทำงานผิดปกติ
- มีโรคประจำตัวเช่น โรคโลหิตจาง หรือโรคที่ต้องฉายแสงเคมีรักษา
- ขาดอาหาร
- ติดยาเสพติด
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อย
- สูบบุหรี่ อ่านต่อ : สูบบุหรี่ ทำให้มีลูกยาก
2.ทางเดินเชื้ออสุจิผิดปกติ
อาการของภาวะทางเดินเชื้ออสุจิผิดปกตินั้นมักจะเกิดจากท่อทางเดินของเชื้ออสุจิมีลักษณะตีบหรือตันจนทำให้เชื้ออสุจิไม่สามารถออกมาได้ ภาวะนี้อาจจะเกิดขึ้นภายหลังหรือเป้นตั้งแต่กำเนิดได้ ซึ่งต้องให้แพทย์เป็นผู้วินิจฉัยและทำการแก้ไข
อ่านต่อ : อาหารบำรุงอสุจิ กินแล้วน้ำเชื้อเยอะ เพิ่มโอกาสมีลูก
3.น้ำเชื้อผิดปกติ
อาการนี้มักเกิดจากส่วนประกอบความเป็นกรดด่างของน้ำเชื้อมีความผิดปกติ อาการเหล่านี้จะส่งผลให้การเคลื่อนไหวของเชื้ออสุจิไม่เป็นไปตามธรรมชาติ ช้า อ่อนแอและตายง่าย
4.การหลั่งน้ำเชื้อที่น้อยเกินไป
การหลั่งน้ำเชื้อที่น้อยกเกินไปก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากได้ ซึ่งสาเหตุนั้นอาจจะเกิดปัญหาระบบสืบพันธุ์ผิดปกติทำให้น้ำเชื้อหลั่งออกมาน้อย หรืออาจเกิดจากทางเพศระหว่างร่วมกิจกรรมทางเพศที่ทำให้การคลั่งน้ำเชื้อไม่สามารถเข้าไปในช่องหลอดได้เต็มที่ หรือเกิดจากภาวะโรคไฮโปคอนดริเอซิส (Hypochondriasis) หรือภาวะการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction)
5.ปัญหาจากปัจจัยอื่น
ปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลให้เกิดการมีบุตรยากนั้นอาจะเกิดจากการร่วมกิจกรรมทางเพศบ่อยเกินไป ทำให้น้ำเชื้อขาดความเข้มข้น หรือการร่วมกิจกรรมทางเพศก่อนหรือหลังวันตกไข่ หรือแม้แต่ความตึงเครียดจากการงาน มีภาวะซึมเศร้า ซึ่งอารมณืเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อฮอร์โมนภายในระบบสิบพันธ์ุในทำงานผิดปกติ
6.อาการหมันจากการไปทำ
ภาวะนี้มักจะเกิดในกลุ่มสามีภรรยาที่เคยมีบุตรมาก่อนแล้วตัดสินใจทำหมันแต่เกิดเปลี่ยนใจภายหลัง วิธีแก้หมันนั้นจะต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์
การแก้หมันหญิง : วิธีแก้สามารถทำได้ด้วยการผ่าตัดส่องกล้องที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไร เนื่องจากมีวิธีการค่อนข้างซับซ้อน ค่าใช้จ่ายสูง และต้องพักฟื้นนานเนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ หลังแก้ไขแล้วก็ยังสามารถการันตีผลได้ว่าจะสามารถกลับมาตั้งครรภ์ได้ 100% อีกด้วย เนื่องจากระบบสืบพันธุ์จะไม่กลับมาทำงานได้เต็มที่และหากยิ่งอายุมากขึ้นโอกาสสำเร็จก็ยิ่งลดน้อยลง
การแก้หมันชาย : วิธีการแก้หมันชายนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ผ่าตัดใหญ่แต่ก็วิธีก็ค่อนข้างยากเนื่องจากจะต้องแก้ไขในส่วนท่อนำน้ำเชื้อที่มีขนาดเล็กมาก และมีอัตราความสำเร็จจะอยู่ที่ประมาณ 50% เท่านั้น ในบางรายหลังแก้แล้วน้ำเชื้อก็ไม่สามารถออกมาได้
7.หมันตั้งแต่กำเนิด
ในกลุ่มนี้มักเกิดจากความผิดปกติในระบบสืนพันธุ์เช่น ในฝ่ายชายถุงอัณฑะไม่ผลิตน้ำเชื้อ หรือ ในน้ำเชื้อไม่มีตัวอสุจิ และในฝ่ายหญิงที่เกิดมาในภาวะไม่มีมดลูกหรือรังไข่ วิธีแก้ขอภาวะมีบุตรยากของผู้เข้ารับการรักษากลุ่มนี้ จำเป้นจะต้องใช้ไข่หรือน้ำเชื้อของผู้บริจาคเท่านั้น
วิธีการแก้ไข
ในปัจจุปันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยเหลือผู้มีบุตรยากมากมาย ซึ่งแต่ละวิธีก็มีขั้นตอนที่จะใช้แก้ไขปัญหาของแต่ละคู่ที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของผู้ที่เข้ารับการรักษาาว่ามีความรุนแรงอยู่ขั้นไหน รวมถึงผ่านการวินิจฉัยของแพทย์ก่อนเพื่อจะได้เลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดได้ง่ายขึ้น
1.IUI (Intra Uterine Insemination)
คือการปฏิสนธิภายในร่างกายที่ถือว่าใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดโดยมีกระบวนการคือ แพทย์ผู้ดูแลจะทำการคัดเลือกน้ำเชื้อที่แข็งแรงที่สุดของฝ่ายชายมาฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เพื่อช่วยลดระยะในการว่ายและยังลดความเสี่ยงของเชื้ออสุจิที่อาจจะตายก่อนจะปฏิสนธิได้ดีมากๆ ซึ่งวิธีนี้เป็นการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้สูง เนื่องจากน้ำเชื้อจะเข้าผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น สามารถทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน ค่าใช้จ่ายไม่สูง และปลอดภัยเนื่องจากเป็นวิธีที่ใกล้เคียงกับการปฏิสนธิโดยวิธีธรรมชาติ
IUI การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ สำหรับผู้มีบุตรยาก
IUIเลือกเพศ การฉีดเชื้อเข้ามดลูก คัดเชื้อเลือกเพศ สามารถทำได้หรือไม่?
ข้อดีของการทำ IUI คือ ไม่เจ็บ และราคาไม่แพง แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับฝ่ายหญิงที่มีอายุมากและไม่สามารถคัดกรองกลุ่มโรค HIV ได้
2.IVF (In Vitro Fertilization)
เป็นกระบวนการปฏิสนธิภายนอกร่างกายที่จะนำไข่และอสุจินำมา “ผสมกันเอง”ภายในหลอดแก้ว เมื่อเกิดการปฏิสนธิจนกลายเป็นตัวอ่อนแล้ว จึงทำการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาตร์จนกลายเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงย้ายตัวอ่อนฝังภายในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์และพัฒนาสู่เป็นทารกต่อไป
เด็กหลอดแก้ว IVF รักษาภาวะมีบุตรยากอย่างปลอดภัย ได้ผลจริง
ข้อดีของการทำ IVF คือ เหมาะสำหรับฝ่ายหญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป สามารถคัดกรองกลุ่มโรค HIV ได้ ฝั่งผู้ชายที่มีเชื้ออสุจิอ่อน ไม่แข็งแรงหรือเป็นหมัน เนื่องจากแพทย์จะทำการคัดเชื้อที่แข็งแรงที่สุดมาใช้ ในกรณีที่ฝ่ายชายเป็นหมันแพทย์จะทำการใช้เข็มดูดน้ำเชื้อออกมาจากลูกอัณฑะโดยตรง
3.ICSI – Intracytoplasmic sperm injection
เป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก IVF ซึ่งเป็นกระบวนการปฏิสนธิภายนอกร่างกายที่มีวิธีการคล้ายกับการทำ IVF เกือบทุกประการ แต่ข้อแตกต่างคือ การทำ ICSI จะเป็นการคัดเลือกไข่กับอสุจิที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุดนำมาปฏิสนธิด้วยวิธีการใช้เข็มเล็กๆ ที่ดูดตัวอสุจิที่คัดเลือดไว้ฉีดเข้าไปให้เนื้อไข่โดยตรงเพื่อก่อให้เกิดการปฏิสนธิ จากนั้นก็นำเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์จจนกลายเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงย้ายตัวอ่อนฝังภายในโพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์และพัฒนาสู่เป็นทารกต่อไป ซึ่งการทำ ICSI เป็นวิธีที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบันเพราะช่วยแก้ปัญหาผู้ที่มีบุตรยากได้หลากหลายสาเหตุ เช่น เหมาะสำหรับฝ่ายหญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไปที่มีภาวะมดลูกมีปัญหา ไข่เปลือกแข็งหนาจนอสุจิไม่สามารถเจาะเข้าไปได้ ฝั่งผู้ชายที่มีเชื้ออสุจิอ่อน ไม่แข็งแรง หรือเป็นหมัน เนื่องจากแพทย์จะทำการคัดเชื้อที่แข็งแรงที่สุดมาใช้ ในกรณีที่ฝ่ายชายเป็นหมันแพทย์จะทำการใช้เข็มดูดน้ำเชื้อออกมาจากลูกอัณฑะโดยตรงเช่นเดียวกับวิธี IVFสามารถคัดกรองกลุ่มโรค HIV ได้ 99.9%*
ข้อดีของการทำอิ๊กซี่ที่คุณควรทราบก่อนที่จะตัดสินใจทำ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
9 พฤติกรรมมีลูกยาก เช็คปัจจัยความเสี่ยงที่คุณอาจทำโดยไม่รู้ตัว
𝐖𝐨𝐫𝐥𝐝𝐰𝐢𝐝𝐞 𝐈𝐕𝐅 เราพร้อมให้คำปรึกษาเรื่องการมีบุตรยาก แบบละเอียดเจาะลึกทุกขั้นตอน โดย นพ.ธิติกรณ์ วาณิชย์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช และการรักษาภาวะมีบุตรยาก ทีมแพทย์ ทีมพยาบาล ทีมนักวิทย์ฯ และผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มามากกว่า 10 ปี ดูแลทั้งลูกค้าไทย และต่างชาติ ใช้เครื่องมือและห้องประฏิบัติการทางแล็บที่ทันสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จสูงสุด มีห้องปฏิบัติการตรวจโครโมโซม NGS ระดับสากล
IUIเลือกเพศ การฉีดเชื้อเข้ามดลูก คัดเชื้อเลือกเพศ สามารถทำได้หรือไม่?
ทำ IUI ฉีดเชื้อเพิ่มโอกาสการมีลูก ต้องเตรียมตัวอย่างไร
ทำกิ๊ฟต์กับเด็กหลอดแก้ว ต่างกันอย่างไร แบบไหนดีกว่ากัน?
ทำกิ๊ฟท์ คืออะไร ช่วยรักษาการมีบุตรยากได้จริงหรือไม่?
เด็กหลอดแก้ว รักษาภาวะมีลูกยาก เพิ่มโอกาสลูกง่ายสมใจ