ท้องลมคืออะไร ? การตั้งครรภ์หลอก สามารถตั้งครรภ์เองได้หรือไม่?

ภาวะท้องลม หรือ ไข่ลม หรือการตั้งครรภ์หลอกๆ เพราะไม่มีตัวอ่อนด้านใน เมื่ออัลตร้าซาวด์ก็จะพบเพียงถุงตั้งครรภ์ เป็นภาวะที่ไม่มีวิธีรักษาและไม่มีวิธีป้องกัน และจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นหากฝ่ายหญิงมีอายุเพิ่มขึ้นทำให้การวางแผนการตั้งครรภ์เพื่อมีบุตรตามธรรมชาติยากขึ้นครับ

ท้องลมคืออะไร ? การตั้งครรภ์หลอก สามารถตั้งครรภ์เองได้หรือไม่?

ภาวะท้องลม ( Blighted ovum) คืออะไร?

ท้องลม มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ภาวะไข่ลม หรือ การตั้งครรภ์หลอกที่เป็นภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน หรือ ตัวอ่อนมีภาวะผิดปกติจนไม่สามารถพัฒนาต่อได้จึงสลายตัวออกไปเองในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ทำให้เหลือเพียงแค่ถุงตั้งครรภ์ ซึ่งในบางรายอาจจะหลุดลอกเองหรือในบางรายอาจจะต้องขูดลอกออก

ภาวะไข่ลม เกิดขึ้นได้บ่อยแค่ไหน?

โดยปกติแล้วภาวะไข่ลมนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุของผู้หญิงเลยครับ เพียงแค่ในกลุ่มอายุที่น้อยกว่า 35 ปี จะมีอัตราเสี่ยงที่ต่ำมากประมาณร้อยละ 15 ในกลุ่มช่วงอายุมากกว่า 35-38 ปี เสี่ยงประมาณร้อยละ 20-25 และในช่วงอายุมากกว่าอายุ 39 ปีขึ้นมามีโอกาสมีภาวะไข่ลมมากถึงร้อยละ 30 ทำให้การตั้งครรภ์เพื่อการมีบุตรยากขึ้น และถึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้โดยธรรมชาติก็ยังไม่สามารถหมดห่วงได้นะครับ เพราะตัวอ่อนก็ยังมีความเสี่ยงของอาการผิดปกติทางพันธุกรรม จำเป็นต้องตรวจคัดกรอง

ภาวะไข่ลม เกิดขึ้นได้อย่างไร

สาเหตุที่ภาวะไข่ลมมีความเสี่ยงในกลุ่มผู้หญิงอายุมากกว่าอายุน้อย เนื่องจากผู้หญิงที่มีอายุมากจะมีความเสี่ยงของคุณภาพไข่เสื่อมเพราะอายุมากกว่าผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ เมื่อคุณภาพไข่เสื่อมคุณภาพลงทำให้เมื่ออสุจิเข้าไปผสมจนเกิดเป็นตัวอ่อนที่ไม่สมบูรณ์ เมื่อฝังตัวเข้าไปแล้วก็ไม่สามารถพัฒนาต่อได้จนเกิดภาวะแท้งตัวอ่อนหลุดลอกออกมาและภาวะตั้งครรภ์หลอก

วิธีป้องกันภาวะท้องลม

ภาวะนี้ความจริงแล้วยังไม่มีวิธีทางการแพทย์ที่สามารถรักษาและการป้องกันที่ได้ผล 100% เนื่องจากยังไม่มีวิธีใดที่สามารถบำรุงและคงสภาพความเสื่อมของคุณภาพไข่ได้ทั้งการทานอาหารเสริมและการฉีดยาบำรุง แต่วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็คือ การฝากไข่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ที่ใช้สำหรับการคงสภาพของไข่ให้พร้อมต่อการปฏิสนธิในช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งไข่จะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีด้วยวิธีทางการแพทย์ สามารถยืดอายุของไข่ให้คงสภาพพร้อมต่อการมีบุตรได้ยาวนานถึง 10 ปี สามารถนำออกมาละลายพร้อมใช้ได้ทันที

แต่ข้อเสียของการฝากไข่คือ ไข่ที่นำออกมาละลายแล้ว จะไม่สามารถใส่กลับเข้าไปในร่างกายได้ หากต้องการมีบุตรจะต้องใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ ICSI ในการตั้งครรภ์เท่านั้น ซึ่งการทำ ICSI ก็เป็นการเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์มากขึ้น เนื่องจากเมื่อปฏิสนธิไข่และอสุจิจนได้เป็นตัวอ่อนในระยะบลาสโตซีสท์ (Blastocyst Culture) แล้ว แพทย์ก็จะสามารถเลือกตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุดที่ผ่านการตรวจโครโมโซมแล้วใส่กลับเข้าไปเพื่อให้ฝังตัวเพื่อเกิดการตั้งครรภ์ต่อไป ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดปัญหาท้องลม และปัญหาการไม่ตั้งครรภ์เพราะตัวอ่อนผิดปกติได้

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

มดลูกต่ำ มดลูกคว่ำ ทำให้แท้งง่ายจริงหรือไม่?

ทำไมต้องใช้ตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ในการทำ ICSI

ไข่ คุณภาพไข่ที่ดีที่เหมาะสมกับการทำ ICSI


แพทย์ผู้เขียน

แพทย์ผู้เขียน


นพ.ธิติกรณ์ วาณิชย์กุล

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชศาสตร์


นพ.ธิติกรณ์ วาณิชย์กุล

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูตินรีเวชศาสตร์